QUESTYLE
Questyle - CMA800R
Questyle – CMA800R
- CMA800R คือเวอร์ชั่นอัพเกรดของ CMA800 ตัว R ที่เพิ่มด้านท้ายหมายถึง “Reference” หรือคุณภาพระดับอ้างอิง การทำงานเป็นระบบ Balance CMA800R มิใช่เป็นแอมป์อ้างอิงในสายการผลิตของ Questyle เท่านั้น แต่หมายถึงอ้างอิงเมื่อเทียบกับแอมป์หูฟังทั่วไปด้วย
- ที่แผงหน้ามีอ๊อปชั่นให้เลือกการใช้งานแบบ “Full Balance Output” และ “Mono/ Stereo” ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อแบบ “Full Balance Output” ได้ แต่ต้องใช้ CMA800R 2 เครื่องแล้วใช้ปรีแอมป์เป็นส่วนควบคุม อินพุท Pre-amp อยู่ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
คุณสมบัติทางเทคนิค
อัตราขยาย 15.5 dB
ความแรงสัญญาณ 7 Vrms
THD+N 0.0004% @ 1 KHz, 20 mW/300 โอห์ม
อัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวน 120 dB
การตอบสนองความถี่ DC – 650 KHz (-3 dB)
ความไวสัญญาณ อินพุท 1.2 Vrms
ความต้านทานขาเข้า 10 K
Input Interface XLR, RCA
Output Interface แจ๊คขนาด 6.3 มม. 2 ช่อง
การทำงานภาคเอาท์พุท Class A
แรงดันไฟขาเข้า 100 – 120 V, 220 – 230 V สวิทช์ปรับภายในเป็นอ๊อปชั่น
กำลังไฟ 13 W
ขนาด 330 x 300 x 55 มม.
Questyle Golden Reference - CMA800P Gold
CMA800P Golden Highend HP Preamplifier
CMA800P Golden High-end HP Preamplifier
ร่วมกันทำงานเพื่อความเป็นที่สุด
Questyle CMA800P ได้รับการว่าจ้างจาก STAX ให้จัดทำอุปกรณ์ที่จะเปิดเผยความยอดเยี่ยมในตัวตนที่แท้จริงของหูฟังรุ่น SR-009 ซึ่งเป็นหูฟังระบบ Electrostatic รุ่นสูงสุดของ STAX
SR-009 ทำด้วยมือในญี่ปุ่นตลอดกระบวนการผลิตตามสั่งเท่านั้น SR-009 ให้ความเป็นธรรมชาติของเสียงสูงสุดและอุดมไปด้วยรายละเอียดที่สวยงามของดนตรีในแบบที่ออดิโอไฟล์ทั่วโลกต่างถวิลหา แม้ระบบเสียงที่ใช้อยู่กับ SR-009 นั้นดีพอที่จะให้หูฟังรุ่นนี้แสดงศักยภาพได้สมกับที่เป็นหูฟังระดับท็อปของโลก แต่ STAX ยังเชื่อมั่นว่าคุณภาพของ SR-009 ยังไปได้ไกลกว่านี้หากได้ปรีแอมป์ชั้นยอดมาเปิดเผยความยอดเยี่ยมที่ยังหลบซ่อนอยู่ให้ออกมาแสดงตัวตนที่แท้จริงอย่างหมดเปลือก ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองสัญญาณฉับพลันเสียงย่านความถี่ต่ำที่ลงไปได้ลึกกว่า มีความเที่ยงตรงมากขึ้นและควบคุมการทำงานได้อย่างนิ่ง ตลอดจนเปิดม่านหมอกที่อาจเหลือปะปนอยู่กับพื้นเสียงให้เสียงแหลมได้ทอดตัวพริ้วไสว ส่งประกายระยิบระยับอย่างที่ลำโพง Electrostatic ทำได้ดีในแง่นี้ การร่วมงานกันจึงเกิดขึ้น เพื่อสรรสร้างปรีแอมป์ชั้นสูงสุดที่ทำงานกับ SR-009 อุปกรณ์ที่ถูกขนานนามว่า High-end ต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญ คือจะต้องให้เสียงที่ยอดเยี่ยมในการฟัง Questyle CMA800P สร้างความตื่นตะลึงในคุณภาพเสียงและคุณสมบัติทางเทคนิคต่อบรรดาเหล่าออดิโอไฟล์ด้วยการให้ความผิดเพี้ยนสัญญาณที่ต่ำสุดขั้วในระดับ 0.00025% ให้การตอบสนองความถี่ที่ราบเรียบจาก 20 Hz – 20 KHz ขณะที่ค่า TIMD นั้นต่ำจนไม่สามารถวัดเป็นตัวเลขออกมาได้ ด้วยคุณสมบัติทางเทคนิคเช่นนี้ CMA800P สามารถท้าทายปรีแอมป์ผลิตใหม่ทุกเครื่องที่มีอยู่ในขณะนี้
เมื่อทำงานร่วมกับระบบเสียง STAX CMA800P ได้เปิดประสบการณ์การฟังเพลงผ่านระบบหูฟังชั้นยอดให้กับผู้ฟังอย่างสุดประทับใจ ด้วยรายละเอียดเสียงที่พรั่งพรูออกมาอย่างหมดจด เสียงเบสที่ไม่สามารถให้ได้โดยหูฟังแบบไดนามิค เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นลอยเด่นเป็นอิสระ ไม่มีการไปเล่นรวมกันเป็นกระจุกอย่างแยกแยะอะไรมิได้ ส่งผลให้เวทีเสียงก่อตัวขึ้นอย่างสวยงามและยิ่งใหญ่ ตำแหน่งของเครื่องดนตรีที่แต่ละชิ้นนิ่งสนิทสามารถระบุตำแหน่งได้อย่างชัดเจนแม่นยำ เสียงสูงควบคุมตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม ปราศจากอาการพุ่งล้ำหน้าเกินระนาบความพอดี ให้ความสมดุลกับเสียงเบสอย่างลงตัว ความอิ่มสมบูรณ์ของเสียงดีเยี่ยมโดยเฉพาะเครื่องดนตรีอย่างไวโอลินที่ระบบเสียงจากหูฟังทั่วไปมักให้เสียงบาง ขาดเนื้อเสียง
CMA800P นับเป็นเพชรเม็ดงามของการออกแบบอุปกรณ์ขยายสัญญาณเครื่องหนึ่งของวงการ เป็นปรีแอมป์ระดับสุดยอดที่พร้อมจะเป็นแถวแรกของระบบขยายสัญญาณให้กับเพาเวอร์แอมป์ชั้นยอดทุกเครื่องได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ไม่หลงเหลืออะไรให้ประณีประนอมอีกต่อไป
CMA800P ตั้งเป้าที่จะเกื้อหนุนให้ STAX SR-009 ก้าวขึ้นสู่จุดสูงกว่าที่เคย งานผลิตของ CMA800P นั้นมีความละเอียด ปราณีตด้วยกระบวนการผลิตที่ใช้เครื่อง CNC ทุกขั้นตอนการผลิตเป็นไปด้วยมาตรฐานระดับสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และด้วยการทำงานในแบบ Class A ซึ่งมีความร้อนสูงกว่าระบบอื่น CMA800P โครงสร้างตัวถังเป็นอลูมินั่มสำหรับการถ่ายเทความร้อนที่ดีเยี่ยม เพื่อการคงไว้ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสมในการทำงาน ความพิถีพิถันเป็นไปในแบบทุกชิ้นส่วน กระบวนการ แม้กระทั่งน้อตที่ใช้ขันยึดตัวเครื่องก็ถูกผลิตขึ้นมาโดยเฉพาะโดยเครื่อง CNC เพื่อความแข็งแรงทนทานสูงสุด
Questyle Golden Reference - CMA800R Gold
CMA800R Golden Current Mode HP Amp
Questyle Golden Reference – CMA800R Gold
CMA800R Golden Current Mode HP Amp
CMA800R เป็นแอมป์หูฟังในซีรีส์ “Golden” ที่มีการยกระดับอุปกรณ์ในด้านทางเดินสัญญาณให้มีคุณภาพสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยยังคงไว้ซึ่งวงจรการทำงานที่เยี่ยมยอดอยู่แล้วในแบบรุ่นมาตรฐาน การอัพเกรดอุปกรณ์ที่โดดเด่น ได้แก่ การใช้ Ceramic PCB ที่มีการสูญเสียสัญญาณที่ต่ำมากและให้เสถียรภาพในการส่งผ่านข้อมูลที่สูง อุปกรณ์ที่ใช้ในโหมด Current Mode Amplification ก็ได้ถูกคัดเลือกเกรดให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก การยกระดับอุปกรณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ CMA800R Golden มีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นอย่างแตกต่าง ตลอดจนผลการทดสอบทางเทคนิคที่เป็นสิ่งยืนยันในคุณภาพที่ดีขึ้น ความโปร่งใส ไร้ม่านหมอก คือสิ่งแรกที่รู้สึกได้ทันที เทคโนโลยี Current Mode Amplification นั้นช่วยสร้างบรรยากาศเสียงที่เปิดโล่ง ให้ความเป็นธรรมชาติของเสียงดนตรีแบบแอมป์หลอดสุญญากาศ ในขณะที่คงไว้ซึ่งความเร็วและความเที่ยงตรงในการตอบสนองสัญญาณอย่างแอมป์โซลิดสเตท Current Mode Amplification มีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างไปจากการขยายสัญญาณแบบทั่วไป กล่าวคือ สัญญาณถูกขยายโดยกระแส แทนที่จะเป็นแรงดัน การทำงานรูปแบบนี้ใช้กันอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมการติดต่อสื่อสารแบบความเร็วสูง และการประมวลผลวีดีโอ การที่ Questyle เลือกรูปแบบการทำงานแบบ Current Mode นี้ก็เนื่องจากว่ามันให้ความผิดเพี้ยนของสัญญาณที่ต่ำมาก ประกอบกับการตอบสนองความถี่สัญญาณที่กว้างกว่าระบบขยายสัญญาณทั่วไป การมีระบบประมวลผลที่รวดเร็วกับการตอบสนองความถี่ที่กว้างเป็นพิเศษจะทำให้ภาคขยายสามารถรับมือกับสัญญาณฉับพลันได้ทันท่วงที ผลที่ตามมาคือ เสียงดนตรีมีความเหมือนจริง ปราศจากอาการหน่วงรั้งใดๆ ที่จะเป็นตัวทำลายความเร็วของสัญญาณและบรรยากาศที่บันทึกเอาไว้
Questyle เลือกที่จะละทิ้งรูปแบบการขยายเสียงแบบ Voltage Mode และหันมาพัฒนา Current Mode คือ ค่า Slew Rate ของภาคขยายจะเพิ่มขึ้นอย่างราบเรียบ เป็นระเบียบในขณะที่แรงดันสัญญาณอินพุทเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนที่สอดคล้องกันอย่างพอดี
เมื่อภาคขยายรับสัญญาณที่มีความแรงสูง ค่า Slew Rate ของแอมป์ในระบบ Current Mode จะตอบสนองได้รวดเร็วกว่าแอมป์ที่ใช้ระบบ Voltage Mode แบบทั่วไปมาก ซึ่งเป็นผลให้ความผิดเพี้ยนสัญญาณเสียงที่เกิดขึ้นมีระดับต่ำกว่าปกติมาก รวมถึงความแรงของสัญญาณขยายที่สูงขึ้น การตอบสนองความถี่ที่กว้างขึ้น ส่งผลให้เสียงดนตรีมีความสมจริง และเที่ยงตรงตามสัญญาณต้นทางมิผิดเพี้ยน
วงจรการทำงานในระบบ Current Mode ของ Questyle นั้นใช้อุปกรณ์ที่แยกเป็นอิสระแบบ Discrete ในรูปแบบการทำงานแบบ Class A เมื่อการทำงานที่เข้ากันได้ดีเยี่ยมของสัญญาณต้นทางไปจนถึงหูฟัง อินพุทและเอาท์พุทต่างทำงานใน Voltage Mode สัญญาณอินพุทจะเดินทางไปยัง VCCS เป็นอย่างแรก Voltage Mode ถูกเปลี่ยนให้เป็น Current Mode ที่จุดนี้ ก่อนจะไปถึง Ai เพื่อการขยายสัญญาณ (ใน Current Mode) จากนั้นจึงไปต่อที่ I/V Converter เพื่อที่จะกลับมาเป็น Voltage Mode อีกครั้ง ก่อนที่จะถูกส่งผ่านไปยัง OPT Stage เพื่อที่จะขับหูฟัง