KINGSOUND
KINGSOUND - M-10

Kingsound – KS-M10
รูปแบบการทำงาน
ตัวขับเสียงชนิด Electrostatic เป็นเทคโนโลยีการขับเสียงที่ตามทฤษฏีแล้วเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ปฏิบัติจริงให้สัมฤทธิ์ผลได้ยาก การทำงานของระบบ Electrostatic นั้น หลักการสำคัญคือการเคลื่อนไหวแบบดึงเข้าดันออกของไดอะแเฟรมที่ก่อให้เกิดเสียงโดยมีหลักการที่คล้ายคลึงกันกับการที่กระดาษแผ่นบางถูกลูกโป่งที่ผ่านการขัดถูด้วยผ้า ดูดเข้าหาเพราะเกิดการเหนี่ยวนำของไฟฟาสถิตย์
ตัวขับเสียงระบบ Electrostatic นี้เป็นการขับเสียงตามหลักการของสนามไฟฟ้าสถิตย์ ภายในตัวขับเสียงประกอบไปด้วยแผ่นไดอะแฟรมแบนบางที่ถูกขึงให้ตึงอยู่ระหว่างแผ่นตัวนำ 2 แผ่น แผ่นตัวนำนี้จะได้รับการชาร์จประจุไฟฟ้าจากการป้อนไฟเข้าไป โดยแผ่นด้านหนึ่งมีประจุเป็นบวกและอีกด้านมีประจุเป็นลบ
เกิดสนามไฟฟ้าวิ่งจากแผ่นประจุบวกไปยังแผ่นประจุลบเมื่อมีสัญญาณไฟ AC ถูกส่งไปที่แผ่นลำโพง ขณะที่แผ่นลำโพงมีประจุเป็นบวก แผ่นลำโพงจะวิ่งเข้าหาแผ่นตัวนำที่มีประจุเป็นลบ และเมื่อแผ่นลำโพงมีประจุเป็นลบ มันจะวิ่งเข้าหาแผ่นตัวนำที่มีประจุเป็นบวก แผ่นลำโพงหรือแผ่นไดอะเฟรมจึงเกิดการเคลื่อนไหวไปมา ผลักอากาศให้เกิดเป็นคลื่นเสียงขึ้นมา โดยคลื่นเสียงที่เกิดขึ้นนี้จะให้ความเที่ยงตรงสูงเทียบเท่าสัญญาณต้นทางเลยทีเดียว
เหตุผลที่เสียงดี
ลำโพงทั่วไปจะเกิดเสียงจากจุดจุดเดียว ซึ่งเสียงที่เกิดขึ้นจะมีการหักเหของเสียงมาก ซึ่งจะมีผลในด้านขนาดและคุณภาพของเสียงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงในระยะใกล้ ในขณะที่ลำโพง Electrostatic มีพื้นที่ของแผ่นลำโพงที่ใหญ่กว่ามาก ดังนั้นจึงมีการหักเหบิดเบือนของเสียงที่ต่ำมาก ส่งผลให้ขนาดของเสียงมีความถูกต้องตามความจริงมากกว่าระบบลำโพงทั่วไป และให้คุณภาพเสียงที่คงความบริสุทธิ์ของสัญญาณต้นทางเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
Headphone Amplifier M-10
การตอบสนองความถี่ 1 Hz – 50 KHz (-3 dB at 50 VRMS out)
ความต้านทานขาเข้า 24 k ohm
ความแรงสัญญาณขาเข้า 150 mV (100 V output)
ระดับความแรงสัญญาณเอาท์พุท 300 VRMS (1% THD)
อัตราส่วนเสียงต่อสัญญาณรบกวน มากกว่า 100 dB (re 100 V output A-Weighted)
ฟังก์ชั่นเพิ่มปริมาณเบส (Bass Boost) +9 dB at 20 Hz, +3 dB at 100 Hz
อัตราขยาย 58 dB
ความเพี้ยน 0.01% (at 100 VRMS/ 1 KHz output)
ขนาดเครื่อง (W x H x D) 170 x 265 x 60 มม.
น้ำหนัก 2.3 กิโลกรัม
KINGSOUND - M-20

Kingsound – KS-M20
รูปแบบการทำงาน
ตัวขับเสียงชนิด Electrostatic เป็นเทคโนโลยีการขับเสียงที่ตามทฤษฏีแล้วเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ปฏิบัติจริงให้สัมฤทธิ์ผลได้ยาก การทำงานของระบบ Electrostatic นั้น หลักการสำคัญคือการเคลื่อนไหวแบบดึงเข้าดันออกของไดอะแเฟรมที่ก่อให้เกิดเสียงโดยมีหลักการที่คล้ายคลึงกันกับการที่กระดาษแผ่นบางถูกลูกโป่งที่ผ่านการขัดถูด้วยผ้า ดูดเข้าหาเพราะเกิดการเหนี่ยวนำของไฟฟาสถิตย์
ตัวขับเสียงระบบ Electrostatic นี้เป็นการขับเสียงตามหลักการของสนามไฟฟ้าสถิตย์ ภายในตัวขับเสียงประกอบไปด้วยแผ่นไดอะแฟรมแบนบางที่ถูกขึงให้ตึงอยู่ระหว่างแผ่นตัวนำ 2 แผ่น แผ่นตัวนำนี้จะได้รับการชาร์จประจุไฟฟ้าจากการป้อนไฟเข้าไป โดยแผ่นด้านหนึ่งมีประจุเป็นบวกและอีกด้านมีประจุเป็นลบ
เกิดสนามไฟฟ้าวิ่งจากแผ่นประจุบวกไปยังแผ่นประจุลบเมื่อมีสัญญาณไฟ AC ถูกส่งไปที่แผ่นลำโพง ขณะที่แผ่นลำโพงมีประจุเป็นบวก แผ่นลำโพงจะวิ่งเข้าหาแผ่นตัวนำที่มีประจุเป็นลบ และเมื่อแผ่นลำโพงมีประจุเป็นลบ มันจะวิ่งเข้าหาแผ่นตัวนำที่มีประจุเป็นบวก แผ่นลำโพงหรือแผ่นไดอะเฟรมจึงเกิดการเคลื่อนไหวไปมา ผลักอากาศให้เกิดเป็นคลื่นเสียงขึ้นมา โดยคลื่นเสียงที่เกิดขึ้นนี้จะให้ความเที่ยงตรงสูงเทียบเท่าสัญญาณต้นทางเลยทีเดียว
เหตุผลที่เสียงดี
ลำโพงทั่วไปจะเกิดเสียงจากจุดจุดเดียว ซึ่งเสียงที่เกิดขึ้นจะมีการหักเหของเสียงมาก ซึ่งจะมีผลในด้านขนาดและคุณภาพของเสียงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงในระยะใกล้ ในขณะที่ลำโพง Electrostatic มีพื้นที่ของแผ่นลำโพงที่ใหญ่กว่ามาก ดังนั้นจึงมีการหักเหบิดเบือนของเสียงที่ต่ำมาก ส่งผลให้ขนาดของเสียงมีความถูกต้องตามความจริงมากกว่าระบบลำโพงทั่วไป และให้คุณภาพเสียงที่คงความบริสุทธิ์ของสัญญาณต้นทางเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
Headphone Amplifier M-20
การตอบสนองความถี่ 10 Hz – 20 KHz (40 VRMS/output)
ความต้านทานขาเข้า 47 k ohm
ความแรงสัญญาณขาเข้า 150 mV (100 V output)
ความแรงสัญญาณขาออกสูงสุด 2 x 160 VRMS
อัตราขยาย 58 dB
ความเพี้ยน 0.01% (at 100 VRMS/ 1 KHz output)
ขนาดเครื่อง (W x H x D) 380 x 155 x 115 มม.
น้ำหนัก 5.2 กิโลกรัม