SOtM
SOtM - sHP-100
SOTM – SHP-100
SHP-100 เป็นทั้ง USB DAC และแอมป์หูฟังคุณภาพสูง SHP-100 สนับสนุนการทำงานของ USB, Coaxial, Optical และ Analog Line Input รวมถึงภาคขยายหูฟังและ Analog Line Output สำหรับการทำงานในภาค DAC ผู้ใช้สามารถใช้สวิทช์เลือกที่อยู่ด้านล่างของตัวเครื่อง โดยสามารถเซ็ต Analog Line Output แบบคงที่ (Fixed Line Output) หรือ Line Output แบบปรับค่าได้ (Variable Line Output) เมื่อผู้ใช้ปรับมาที่ Variable Line Output ผู้ใช้สามารถใช้ SHP-100 ต่อเข้ากับ Power Amplifier และควบคุมระดับสัญญาณเสียงที่โวลลุ่มของ SHP-100 ได้เลย หากผู้ใช้ปรับสวิทช์มาที่ Fixed Line Output ผู้ใช้สามารถใช้ SHP-100 ต่อกับปรีแอมป์หรืออินทิเกรทแอมป์แล้วปรับระดับควบคุมเสียงที่ปรีแอมป์หรืออินทิเกรทแอมป์
สำหรับภาคขยายหูฟัง ผู้ใช้สามารถควบคุมระดับความดังได้ที่โวลลุ่มที่แผงหน้าของตัวเครื่อง และสามารถปรับค่าความต้านทานที่เหมาะสมกับหูฟังที่ใช้ได้ที่สวิทช์เลือกความต้านทานที่อยู่ด้านล่างของตัวเครื่อง
ที่ด้านหน้าของ SHP-100 จะพบแจ๊คอินพุทขนาด 3.5 มม. ซึ่งมีไว้สำหรับใช้งานเป็นภาคขยายหูฟังหรือใช้งานเป็นปรีแอมป์ได้โดยการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือเครื่องเล่นไฟล์ต่างๆ
SHP-100 ใช้ชิพ AK4113 DIR ของ AKM สำหรับ Coaxial และ Optical Digital Input ซึ่งรองรับการทำงานที่ 24 bit/192 KHz สำหรับ USB Input SHP-100 รองรับการเล่นไฟล์ที่ 24 bit/192 KHz PCM และ DSDX64, X128 ผ่าน Multicore Processor โดย XMOS และ USB Audio Class 2.0 ดิจิตอลอินพุททั้งหมดทำงานผ่านชิพ DAC CS4398 ซึ่งเป็นชิพรุ่นสูงสุดของ Cirrus Logic และต่อไปยังชิพภาคขยาย LME49720 และ TPA6120A2 ของ Ti ซึ่งเป็นหนึ่งในชิพ Op-Amp ที่ดีที่สุดในขณะนี้ SHP-100 ใช้โวลลุ่มคุณภาพสูงจาก ALPS ซึ่งช่วยในด้านการลดความเพี้ยนของสัญญาณเสียงได้เป็นอย่างดี
ในด้านภาคจ่ายไฟ SHP-100 ใช้ภาคจ่ายไฟแบบ ULNR (Ultra Low Noise Regulator) โดยใช้ทั้งภาคอนาล็อกและดิจิตอล
SHP-100 มี Jitter ต่ำมาก อีกทั้งยังมีระบบ Active Noise Canceller เพื่อช่วยขจัดสัญญาณรบกวนให้อยู่ในระดับต่ำสุด จากฟีเจอร์ต่างๆ ที่กล่าวมาเมื่อพิจารณาราคาค่าตัวของ SHP-100 ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้จะได้รับความคุ้มค่าเกินราคาที่จ่ายไปอย่างแน่นอน
SHP-100 ไม่จำเป็นต้องใช้ภาคจ่ายไฟแยกเพราะใช้ไฟเลี้ยงจาก USB ก็พอเพียงต่อความต้องการแล้ว แต่ถ้าจะให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด แนะนำให้ใช้ mBS-d2s ซึ่งเป็นภาคจ่ายไฟแบตเตอรี่ SHP-100 จะแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ ดนตรีจะมีความงดงาม น่าฟัง และทั้งตัวเครื่องและภาคจ่ายไฟก็มีดีไซน์ที่ออกแบบให้เข้าคู่กันได้อย่างสวยงามอีกด้วย