Hegel
Hegel - HD25 DAC
Hegel – HD25 DAC
แบรนด์ Hegel ใช้เวลาไม่มากในการก้าวมาเป็นผู้ผลิตเครื่องเสียงออดิโอไฟล์ที่นักเล่นให้การยอมรับ โดยทั่วไปการเปิดตัวของเครื่องเสียงแบรนด์ใหม่เรามักเห็นความอลังการงานสร้างของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเปิดตัวให้เป็นที่จดจำ เช่น แอมป์หลอดขนาดใหญ่น่าเกรงขาม พร้อมมิเตอร์และสิ่งดึงดูดสายตาอื่นๆ ซึ่งทุกวันนี้เราก็ต้องยอมรับกันว่าคนจำนวนไม่น้อยที่ซื้อของกันด้วยรูปลักษณ์มากกว่าคุณสมบัติของอุปกรณ์เหล่านั้น และการที่ความสามารถในการจับจ่ายมีมาก ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องได้ของดี มีรสนิยมเสมอไป
ผลิตภัณฑ์จากประเทศนอร์เวย์มักมีรูปลักษณ์ที่เรียบร้อย ไม่ค่อยแสดงออกถึงความหรูหรา อลังการ Hegel - HD25 ก็เช่นกัน มีรูปลักษณ์ที่ดูเรียบเป็นอย่างมาก ด้วยแผงหน้าสีดำด้านและจอแสดงผลเรียบๆที่ไม่ได้สร้างความคาดหวังว่าจะเป็นอุปกรณ์ด้านเสียงที่มีเทคโนโลยีล้ำลึกแต่อย่างใด และนี่ก็คือหนึ่งตัวอย่างที่บอกให้เรารู้ว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในนั้นคือหัวใจที่สำคัญที่สุด
Hegel นั้นมีปรัชญาในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจคือ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีควรจะทำให้ผู้ใช้ได้ของที่ดีขึ้นในราคาที่ถูกลง เราคงพอจะเห็นตัวอย่างแนวคิดเช่นนี้ได้จาก HD11 DAC ที่นักเล่นต่างลงความเห็นว่ามีคุณภาพเหนือกว่าอุปกรณ์รุ่นก่อนมาก แต่กลับมีราคาขายที่ถูกกว่าเสียอีก สถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันก็อาจกล่าวถึง H80 amplifier ที่มีราคาขายแพงกว่ารุ่น H70 ไม่มากนัก แต่ว่ากลับอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์สำคัญ เช่น Built-In DAC พร้อมอินพุทดิจิตอลจำนวนมากและยังใช้ภาคปรีแอมป์เหมือนกันกับ H300 ซึ่งเป็น Integrated Amp รุ่นสูงสุดของ Hegel อีกด้วยและ HD25 ล่ะยังจะเดินตามแนวคิดของ Hegel เฉกเช่นอุปกรณ์รุ่นอื่นๆ ที่กล่าวถึงหรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าคิด น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง

การออกแบบและฟังก์ชั่นการใช้งาน
เมื่อ Hegel-HD25 เปิดตัวในช่วงแรก คนที่เห็นรูปลักษณ์และขนาดต่างก็ฟันธงกันทันทีว่า HD25 เหมือน HD11 ทุกอย่างมีเพียงแค่ใช้อุปกรณ์เกรดดีขึ้นกับลูกเล่นอีกเล็กน้อย แผงหน้าของ HD25 ซึ่งทำหน้าที่เป็น Input Selector ด้วย นับเป็นความเฉียบแหลมในการออกแบบที่เข้าตำราทำน้อยได้มาก เมื่อมาดูที่ราคาซึ่งแพงเป็นสองเท่าของ HD11 มันก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าคงจะต้องมีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่เป็นแน่ เพราะขนาดมันค่อนข้างสวนทางกับราคาในมุมมองของคนทั่วไป DAC ระดับเรือธงของ Hegel ถ้าหากใช้ตัวถังขนาดเดียวกับแอมป์รุ่น H80 ผู้คนก็จะไม่ทักท้วงใดๆ และจะคิดไปว่าราคากับขนาดนั้นเหมาะสมกันแล้ว วิศวกรของ Hegel เข้าใจดีว่าไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยในการใส่แผงวงจรของ HD25 ในตัวถังใหญ่ๆ เพียงเพื่อจะ
ดึงดูดความสนใจจากคนส่วนน้อย ดังนั้น HD25 จึงมีขนาดตามที่ควรจะเป็นและใช้ชุดการเชื่อมต่อต่างๆ เหมือนกันกับอุปกรณ์รุ่นก่อนหน้า ราคา $2,500 นั้นจะว่าไปก็ไม่น้อยสำหรับอุปกรณ์ขนาดเท่านี้ อย่างไรก็ตามวิศวกรของ Hegel มั่นใจว่า HD25 สามารถนำไปวางคู่กับ DAC ที่ดีที่สุดทุกตัวที่มีขายในตลาดได้อย่างเต็มภาคภูมิ
HD25 เป็นหนึ่งใน DAC ที่มักไม่ค่อยเห็นวางกันบนชั้นวางเครื่องเสียง ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะขนาดที่เล็กนั้นนับเป็นข้อดีที่ผู้ใช้สามารถวางไว้ที่ขอบโต๊ะโดยที่มือของผู้ใช้เอื้อมไปแตะแผงหน้าของ HD25 ได้อย่างสะดวก ทำให้ผู้ใช้เลือกใช้อินพุทได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะเมื่อมีการทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องเปลี่ยน Source สลับไปมาอยู่ตลอดเวลา
ผู้ใช้ HD25 ควรทราบบางอย่างเกี่ยวกับการติดตั้งใช้งานกับระบบเสียงของท่าน คือผู้ผลิตให้เราเลือกใช้งาน Digital Filter ได้สองทางเลือก ซึ่งเราสามารถใช้เป็นตัวช่วยจูนเสียงในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อให้ได้เสียงที่ถูกหูผู้ใช้มากที่สุด ประการถัดมาก็คือ HD25 รองรับการเล่นไฟล์ 24 bit/ 192 KHz ผ่านทาง USB โดยที่เราไม่ต้องหาตัวแปลงสัญญาณมาใช้งานเพื่อที่จะเล่นไฟล์แบบ Hi-Res ซึ่งให้ความสะดวกมาก Hegel ยังเห็นความสำคัญของผู้ใช้งานที่ยังไม่พร้อมเล่นไฟล์รายละเอียดสูง โดยมีสวิทช์ด้านหลังเครื่องให้เลือกใช้งานโหมดการทำงานที่ 96 KHz โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงไดร์ฟเวอร์เพิ่มเติมใดๆ
HD25 สามารถปรับระดับสัญญาณเอาท์พุทภาคอนาล็อกได้ ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถใช้ HD25 ให้ทำงานเป็นปรีแอมป์เพื่อใช้งานกับเพาเวอร์แอมป์ต่างๆ ได้ จึงเป็นทางเลือกที่ดีให้เราเลือกซื้อเพาเวอร์แอมป์ที่ดีแทนที่จะเลือกอินทิเกรทแอมป์ โดยผู้ใช้สามารถควบคุมระดับความดัง ค่อยของสัญญาณเสียงผ่านทางรีโมทของ HD25 อาจเป็นเรื่องน่าเสียดายเล็กน้อยที่เราไม่สามารถปรับระดับสัญญาณเสียงได้โดยการเคาะที่แผงหน้าเช่นเดียวกับการเลือก Source แต่จะว่าไปแล้วผู้ใช้งานส่วนใหญ่ก็มักจะใช้รีโมทปรับระดับสัญญาณโวลลุ่มอย่างเคยชินกันอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องพะวงอะไรกันกับเรื่องนี้ สัญญาณอนาล็อกของ HD25 จะส่งออกที่เอาท์พุท RCA และ XLR ทางด้านหลังเครื่อง
ผู้ทดสอบบางท่านให้คอมเม้นท์ไว้ว่า ไม่ค่อยถนัดใช้เครื่องที่มีปุ่มรองเครื่องชนิด 3 ขา เพราะมันให้ความมั่นคงได้ดีกว่า ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าการใช้ที่รองเครื่องแบบ 3 ขานั้นช่วยป้องกันการสั่นได้ดีกว่าแบบ 4 ขาก็ตาม ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอีกเช่นกัน

คุณภาพเสียง
ผู้ทดสอบมีความคาดหวังกับอุปกรณ์ระดับสูงสุดของสายการผลิตไว้สูง และคิดว่า HD25 น่าจะต้องสร้างความแตกต่างให้กับระบบเสียงที่ฟังอยู่ได้อย่างหวือหวาน่าตกใจเมื่อได้ฟังเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม HD25 ไม่ใช่ DAC ที่ฟังแล้วจะรู้สึกตื่นเต้นในทันที ในความเป็นจริงออกจะสงบนิ่งในแบบฉบับของเครื่องเสียงไฮเอนด์ทั่วไป คือไม่ได้แสดงความสามารถอันสุดโต่งที่จะโชว์สาระในแง่มุมต่างๆ ของดนตรีที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกตกตะลึงไปกับเสียง แต่เมื่อทำใจให้สบายแล้วค่อยๆ ฟังไปเรื่อยๆ สักระยะ ผู้ฟังจะพบว่า HD25 ไม่มีสิ่งใดที่ขาดแคลนเลย ไม่ว่าจะเป็นความสมดุลของเสียง ไดนามิค ความชัดเจน รายละเอียด การตอบสนองเสียงต่ำ รับรองว่าจะใช้เวลาไม่นานในการหาคุณสมบัติของ DAC รุ่นนี้ ไม่จำเป็นต้องเคยชินกับการฟังระบบเสียงที่เป็นธรรมชาติสูงหรือมีความสมดุลดีเยี่ยมมาก่อนก็สามารถบอกถึงคุณภาพของ HD25 ได้ สำหรับนักฟังที่เรียกตัวเองว่าออดิโอไฟล์ อาจจะใช้เวลาประเมินคุณภาพที่แท้จริงของ HD25 ในเวลาไม่เกิน 10 นาทีด้วยซ้ำ
HD25 จะพาผู้ฟังค้นพบสิ่งใหม่ๆ จากเพลงเก่าๆ ที่เคยฟัง ดนตรีมีความลื่นไหล เพลิดเพลิน ในขณะเดียวกันก็อุดมไปด้วยรายละเอียด และไดนามิคที่พร่างพราวและกลมกลืน สิ่งที่เป็นจุดเด่นที่สำคัญของ DAC รุ่นเรือธงนี้คือการให้รายละเอียดที่มากมาย แต่กลับนำพาให้ผู้ฟังรู้สึกผ่อนคลายสบายอารมณ์ในขณะที่ฟัง เสียงที่ถ่ายทอดออกมามีความเป็นธรรมชาติและเที่ยงตรง ไม่ปกปิดหรือมีบุคลิกกลบเกลื่อนความเป็นต้นฉบับของสัญญาณเสียงแม้แต่น้อย คุณสมบัติทางเสียงที่กล่าวมาสามารถฟังออกได้ในทุกองค์ประกอบของดนตรี หากมองกันที่เสียงเบสที่ดูเหมือนไม่มีอะไรอึกทึกครึกโครม แต่ในความเป็นจริง มันกลับลงได้ลึกและตอบสนองได้เร็วกว่าที่คุ้นเคย เวทีเสียงก็เช่นเดียวกัน ให้รูปวงที่ถูกต้องไม่จงใจขยายใหญ่เพื่อดึงความสนใจ อาจฟังดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษเมื่อแรกฟังด้วยซ้ำ แต่ฟังไปสักพักแล้ววิเคราะห์ดูจะรู้ว่ามันเที่ยงตรงและนิ่งมาก เสียงกลางมีความเป็นกลางจริงๆ ไม่อุ่นหรือสว่างเกิน เป็นเสียงที่ไม่เอนเอียงและจะเปลี่ยนไปตามสิ่งที่บันทึกมาโดยไม่ไปเพิ่มเติมหรือลดทอน หากจะสรุปแนวเสียงอาจกล่าวได้ว่า HD25 นั้นถ่ายทอดเสียงที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างเป็นธรรมชาติ น่าฟัง น่าติดตาม

คุณภาพงานผลิตและคุณสมบัติทางเทคนิค
HD25 เป็น DAC ที่มีอินพุท 4 ชุดซึ่งประกอบไปด้วย Coaxial 2 ชุด Optical 1 ชุดและ USB ชนิด B 1 ชุด และมีอนาล็อกเอาท์พุท 2 แบบคือ Balance และ Unbalance เต้ารับไฟ AC เป็นแบบ 3 ขามาตรฐานพร้อมสวิทช์พาวเวอร์และฟิวส์ ที่ด้านหน้าของเครื่องมีเพียงจอแสดงผลสีฟ้า หากผู้ใช้ต้องการเลือก Source สามารถทำได้โดยการเคาะเบาๆ สองครั้งที่แผงหน้าของเครื่อง อุปกรณ์ภายในถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนคือส่วนภาคจ่ายไฟซึ่งอยู่ด้านหน้าของตัวเครื่อง และส่วนแผงวงจรที่อยู่ถัดมาและยาวไปถึงด้านท้ายของตัวเครื่อง อินพุท USB จะถูกแยกต่างหากออกมาจากส่วนอื่น กราวด์และไฟถูกเดินแยกออกมาจากแผงวงจร มีการใช้อุปกรณ์ของ AKM อยู่หลายส่วน เช่น AK4115 ซึ่งเป็น Digital Receiver ของซ็อคเก็ต Coaxial AK4127 Frequency Converter และ AK4399EQ สำหรับ C/A Conversion มีการใช้ Silicon-germanium กับวงจรนี้ด้วย ซึ่งไม่พบบ่อยสำหรับการใช้งานในรูปแบบนี้ ภาคจ่ายไฟมีการใช้ตัวเก็บประจุขนาด 10,000 uF จำนวน 2 ตัว ถัดมาเป็นหม้อแปลงชนิดเทอรอยด์ยึดติดกับฐานรองด้วย Foam Ring ส่วนของตัวถังที่ก่อให้เกิดการสั่นได้จะได้รับการบุด้วยโฟมเพื่อช่วย Damp ไม่ให้เกิดการสั่น ในการทำงานตัวเครื่อง HD25 ค่อนข้างร้อน แต่ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องแยกออกมาวางไว้ในที่โล่งเพื่อช่วยระบายความร้อน เพราะมีการทำช่องระบายอากาศที่เพียงพอสำหรับการระบายความร้อนอยู่หลายจุดแล้ว ซึ่งนับเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและใช้งานได้ดี

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบ
Audium Comp 5, Sevenrods ROD4, Naim NAC 152 XS, Naim NAP 155XS, Albedo Geo, Cyrus CD1, Tellurium Q Graphite Digital RCA, Audioquest Cinnamon, Enerr AC Point One, Enerr Symbol Hybrid, Enerr Holograph, Audioquest NRG-2, Ostoja T1

สรุปผลการทดสอบ
การฟัง HD25 นั้นทำให้ผู้ทดสอบนึกถึงรถยนต์ที่เพิ่งออกจากอู่หลังจากทำการซ่อมบำรุงไปหลายรายการ ทั้งถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรอง เปลี่ยนผ้าเบรค เปลี่ยนโช้ค และยางใหม่ทั้งสี่ล้อด้วย เมื่อขับออกถนน มันสร้างความสบายใจในการขับขี่ได้มาก แม้เป็นรถที่เราคุ้นเคยจนไม่รู้สึกว่ามีอะไรพิเศษแปลกใหม่เมื่อแรกขับ แต่พอขับไปสักพักก็พบว่ารู้สึกว่าอัตราเร่งมันดีขึ้นกว่าเดิมมาก วิ่งผ่านหลุมก็ไม่ส่งเสียงดัง พวงมาลัยเที่ยงตรง แม่นยำ เบรคที่หนึบแน่นและยางที่เกาะถนนกว่าเดิม ให้ความรู้สึกมั่นใจในการขับขี่ได้อย่างเพลิดเพลินมากทีเดียว ความรู้สึกที่รับรู้ได้คือ มันดีขึ้นจริงๆ
DAC จากนอร์เวย์เครื่องนี้ได้ถ่ายทอดเสียงดนตรีที่เราคุ้นเคยแต่ให้ความรู้สึกใหม่ที่รื่นรมย์ สบายใจกว่าเดิมจนไม่อยากหยุดฟัง นั่นเป็นเหตุผลที่รีวิวนี้ยาวนานกว่าที่เคย
คุณสมบัติทางเทคนิค
ชนิดของ DAC: 32 bit
ความแรงสัญญาณเอาท์พุท: 2.5 V
Digital inputs: 2 x Coaxial, Optical, USB
Analog outputs: RCA, XLR
การตอบสนองความถี่: 0 Hz – 50 KHz
อัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวน: 145 dB
ความเพี้ยน: 0.0006%
ขนาด: (สูง x กว้าง x ลึก) 6 x 21 x 26 ซม.
น้ำหนัก: 3.5 กิโลกรัม